2020-09-23 14:16
จำนวนครั้งที่อ่าน : 185
หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ลงนาม บันทึกความร่วมมือ “โครงการเกษตรปลอดการเผา” (Zero Burn) ในจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จังหวัดอุบลราชธานี และผู้แทนจำหน่ายคูโบต้าจังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้แนวคิด ”อุบลราชธานีเมืองต้นแบบปลอดการเผา” ผลักดันนโยบายการงดการเผาตอซังและฟางข้าว ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในจังหวัดอุบลราชธานี ฯลฯ
วันที่ 24 กันยายน 2563 เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์
หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ลงนาม บันทึกความร่วมมือ
โครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ในจังหวัดอุบลราชธานี
ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จังหวัดอุบลราชธานี และผู้แทนจำหน่ายคูโบต้าจังหวัดอุบลราชธานี
เพื่อผลักดันให้เป็นจังหวัดต้นแบบ ในการขับเคลื่อน”โครงการเกษตรปลอดการเผา(Zero Burn)
”อุบลราชธานีเมืองต้นแบบปลอดการเผา” ผลักดันนโยบายการงดการเผาตอซังและฟางข้าว ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ในจังหวัดอุบลราชธานี ฯลฯ 
โดย นางพองาม ปรีดาสันต์ รองประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ในนามหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี
โครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn ) คืออะไร jมีที่มา แนวคิด และแนวทางปฏิบัติอย่างไร
โครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn ) มีเป้าหมายและจะส่งผลดีอย่างไรต่อ จ.อุบลฯ
ความคืบหน้า ของโครงการ
ได้รับความร่วมมือ มาแล้วอย่างไรjQuery18307458875791400597_1601176354209
แนวคิด ที่มาและความสำคัญของโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn)
นั้นมาจาก จากปัญหามลพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นโดยกว่า 50% เกิดจากการเผาในที่โล่งซึ่งรวมถึงการเผาในพื้นที่ทางการเกษตรส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน
และเพื่อตอบรับนโยบายงดการเผาในพื้นที่การเกษตรของภาครัฐ มุ่งแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5
ซึ่งแน่นอนว่าการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กจึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือภาคประชาชนต้องให้ความร่วมมือ
ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพบว่าเกษตรกร ก็มีข้อจำกัดเรื่องแรงงานคน ที่มีต้นทุนที่สูง ประกอบกับพื้นที่ทำการเกษตรที่มาก และเรื่องข้อจำกัดของแรงงานคนกับประเภทงาน ทำให้เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกษตรกรต้องใช้วิธีการเผาในภาคการเกษตร เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว ใบอ้อย วัชพืช ฯลฯ อยู่เสมอก่อนเริ่มฤดูหว่านไถใหม่
ด้วยแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเกษตรไทยควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อลดมลภาวะทางอากาศ และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกการใช้งานในภาคการเกษตร อยู่แล้วนั้น จึงเล็งเห็นความสำคัญและดำเนิน
“โครงการเกษตรปลอดการเผา” (Zero Burn) เพื่อรณรงค์และพัฒนาการกระบวนการผลิตโดยวิธีปลอดการเผา
โดยตั้งเป้าให้เกษตรกรในพื้นที่ส่งเสริม สามารถเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตร และนำไปใช้ในการทำการเกษตรปลอด การเผา (ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายภาครัฐในการลดการเผาในพื้นที่การเกษตรให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2565) ตลอดจนสร้างมูลราคาเพิ่มให้แก่วัสดุเหลือใช้หลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว และใบอ้อย ด้วยการนำเอานวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร machinery solutions และองค์ความรู้ด้านการเกษตร Knowledge
solutions ภายใต้องค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร มาปรับใช้เพื่อการนำไปสู่การพัฒนาภาคเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืนต่อไป
โดยสยามคูโบต้าจะร่วมส่งเสริมองค์ความรู้และวิธีการทำการเกษตรปลอดการเผา พร้อมหาตลาดรับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับชุมชน และเกษตรกร ในจังหวัดอุบลราชธานี จากการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยวางแผนสนับสนุนด้านเครื่องจักรกลการเกษตรด้วยการมอบส่วนลดเครื่องอัดฟางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เกษตรเป้าหมาย โดยแทนที่จะเผาฟางทิ้ง ให้เป็นมลภาวะทางอากาศ เปลี่ยนมาเป็น
จารุณี พิมพ์หล่อ รองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี รายงาน